บริษัททำการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยให้คำมั่นในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่พระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ประกาศกำหนด
เพื่อเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ในการแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงได้แจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ซึ่งจะอธิบายถึงลักษณะและเหตุผลของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ท่านทราบ
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งบริษัทดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยบริษัทอาจอาศัยหรืออ้าง (1) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเริ่มต้นทำสัญญา หรือการเข้าทำสัญญา หรือปฏิบัติตามสัญญากับท่าน (2) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท (3) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก (4) ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ (5) ฐานประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาต แล้วแต่กรณีเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1) ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน เช่น คำนำหน้า ชื่อ-สกุล เลขประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล เพื่อการติดต่อประสานงานระหว่างบริษัทและเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการเข้าสมัครบริการ การใช้บริการ และการพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการ
2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับการดำเนินการทำสัญญา เช่น ข้อมูลสำหรับการติดต่อประสานงาน สัญญาให้บริการ ข้อมูลการใช้บริการของลูกค้า ข้อมูลการชำระค่าบริการของลูกค้า หนังสือรับรองบริษัท หนังสือได้รับมอบอำนาจ ข้อมูลการเสนอราคาเพื่อการติดต่อประสานงานระหว่างบริษัทและเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการเข้าสมัครบริการ และการใช้บริการ
3) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับการบริการ เช่น ข้อมูลการใช้บริการ ข้อมูลการแก้ไขปัญหาทางเทคนิค ข้อมูลการสำรวจความคิดเห็นและความพึงพอใจ ข้อมูลข้อร้องเรียน ข้อมูลการชำระเงิน เพื่อการติดต่อประสานงาน และการพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการ
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้เท่านั้น ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่น บริษัทจะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบและอธิบายถึงฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างเหมาะสม เพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทแจ้งแก่ท่านตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎข้อบังคับต่าง ๆ บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานขึ้นหากจำเป็น และ/หรือสามารถกระทำได้โดยชอบตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
บริษัทอาจเปิดเผยและ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกดังต่อไปนี้ ซึ่งเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
1) บริษัทในเครือ บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยและ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือ หรืออนุญาตให้บริษัทในเครือนั้นเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้ระบุไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้
2) ผู้ให้บริการของบริษัท บริษัทอาจว่าจ้างบริษัทอื่น ตัวแทน หรือผู้รับจ้างในการให้บริการในนามของบริษัท หรืออำนวยความสะดวกในการมอบบริการให้กับท่าน โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก
3) พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท บริษัทอาจเปิดเผยและ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท เพื่อดำเนินธุรกิจและบริการ
4) บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายกำหนด ในบางกรณีบริษัทอาจจะจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยและ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล เจ้าพนักงาน หน่วยงานรัฐ ผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือบุคคลอื่น ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือข้อบังคับทางกฎหมาย
บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จึงจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการการดำเนินการกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพ ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อธำรงไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบตามที่กฎหมายกำหนด
สิทธิของเจ้าของข้อมูลตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนดไว้มีดังต่อไปนี้
1) ขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
2) คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน
3) ขอให้บริษัทดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
4) ขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
5) ขอให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
บริษัทได้มีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อตรวจสอบการดำเนินงานและประสานงานของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด
คุกกี้ (Cookies) คือ ข้อมูลที่เว็บไซต์ ส่งไปยังเว็บบราวเซอร์ (Web Browser) ของผู้ให้บริการ เพื่อให้ลูกค้าสะดวกสบายในการใช้งานเว็บไซต์ รวมถึงช่วยในการศึกษาพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชมแพลตฟอร์มโดยรวม และนำไปพัฒนาเว็บไซต์ให้สามารถใช้งานได้ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ลูกค้าสามารถปฏิเสธการใช้งานคุกกี้ได้โดยเลือกการตั้งค่าที่เหมาะสมบนเบราว์เซอร์ อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งให้ทราบว่าหากมีการปฏิเสธการใช้งานคุ้กกี้ อาจจะส่งผลกระทบให้ไม่สามารถใช้ หรือ เข้าถึงฟังก์ชันการทำงานทั้งหมดของเราได้
หากท่านประสงค์จะใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทผ่านทางช่องทางดังต่อไปนี้
1) บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน)
349 ชั้น 28 อาคารเอสเจ อินฟินิทวัน บิสสิเนส คอมเพล็กซ์ ถนนวิภาวดีรังสิต
แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 (ประเทศไทย)
โทรศัพท์ (+66) 2-596-5095
2) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อีเมล์ dpooffice@thaicom.net
3) เว็บไซต์ของบริษัท www.looxtv.net
4) อีเมล์ looxtv@thaiai.co.th
5) Line OA : @looxtv
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประกาศใช้วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565